Wednesday, August 7, 2013

หนูเมอรี่ไปโรงเรียน : สรุปห้าสัปดาห์

MATS-5weeks-roundup

ว่าจะเขียนโพสต์นี้มาหลายวัน แต่ดูเหมือนจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ อาทิตย์ที่ผ่านมาตั้งใจวางแผนงานสำหรับ MerryDay อย่างจริงจัง ไม่รู้หรอกว่าการเขียน business plan มันเขียนยังไง แค่เขียนรายละเอียด ขั้นตอนที่คิดวาจะทำไว้อย่างละเอียดสุดๆ พอแจกแจงรายละเอียดได้เยอะก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองชัดเจนขึ้น ไม่งงๆ มึนๆ ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนเหมือนเมื่อก่อน เขียนเสร็จก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มงานแบบจริงจัง แต่ก็ต้องรีบวิ่งไปโรงพยาบาลเพราะพ่อป่วย...

ชีวิตที่ผ่านมามีพ่อเป็นที่พึ่งตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เราอายุเยอะแล้ว และพ่อก็แก่มากแล้วด้วย เรากลายเป็นที่พึ่งสำหรับพ่อเวลาเจ็บป่วย รู้สึกกลัวและลังเลนิดๆ ว่าคิดถูกหรือเปล่าที่จะมาเริ่มทำงานของตัวเองตอนนี้ แต่คิดดูอีกทีงานฟรีแลนซ์ที่ผ่านก็ไม่ต่างกับตอนนี้เท่าไหร่ ชีวิตนี้คงไม่สามารถกลับไปทำงานประจำได้อีก ถ้าจะทำขอทำงานประจำของตัวเองดีกว่า...

หลังๆ รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยวอกแวก ไม่ค่อยลังเลอะไรเท่าไหร่ เพื่อนก็บอกว่าดูเรามั่นใจกว่าแต่ก่อน ทั้งที่ไม่มีอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ตั้งใจทำจะได้เรื่องหรือล้มเหลว แต่นั่นแหละ ชีวิตมันสั้น อายุก็เยอะแล้ว ตั้งใจทำงานเดินหน้าไปดีกว่า

รูปข้างบนคือรวมงานการบ้านที่ทำในคลาส Make Art That Sells e-course ที่เพิ่งเรียนจบไป (คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่) ใครที่พอจะคุ้นกับงานเราคงจะดูออกว่าสไตล์กับดีไซน์ยังคงความเป็น MerryDay อยู่ที่ดูต่างหน่อยก็น่าจะตรงที่มีรายละเอียดมากขึ้น ดูเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น งานก่อนหน้านี้จะเป็นรูปที่วาดแบบโดดๆ ไม่มีฉากหรือแบ็คกราวนด์ ไม่มีตัวประกอบหรือเรื่องราว ซึ่งเป็นจุดที่เราคิดมานานแล้วว่าต้องพัฒนา

ตั้งแต่เริ่มเรียนมาก็มีคนถามตลอดว่าคิดอยังไงกับคลาสนี้ ซึ่งถ้าจะตอบคำถามนี้ก็ต้องถามตัวเองก่อนว่าเราคาดหวังอะไรกับชั้นเรียนนี้บ้าง ก็สรุปมาง่ายๆ ว่าก่อนจะเรียน เราคาดหวังว่า :

• เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับ art business มากขึ้น

• เราจะรู้ว่าทำยังไงให้งานที่เราออกแบบไปอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้

• เราจะได้รู้จักคนเยอะขึ้น (และให้คนอื่นรู้จักงานเราเยอะขึ้น)

• ฝึมือในการวาดและออกแบบของเราจะพัฒนาขึ้น (เกี่ยวกับฉาก แบ็คกราวนด์ เรื่องราว ที่ว่ามาข้างต้นนั่นแหละ)

พอเรียนจบก็รู้สึกว่า :

• รู้เรื่องเกี่ยวกับ art business มากขึ้นนะ ว่าเขาทำอะไรยังไงกันบ้าง

• จุดที่ชอบในคอร์สนี้คือ เขาแยกแต่ละอาทิตย์ให้โฟกัสเรื่องเรื่องเดียวไปเลย อย่างอาทิตย์ที่เรียนเกี่ยวกับหนังสือเด็ก ก็จะสอนว่าหนังสือเด็กจะต้องเน้นอะไรบ้าง เรื่องราวหรือรูปวาดแบบไหนที่จะมีโอกาสได้ตีพิมพ์ พร้อมตัวอย่างงานสวยๆ จากศิลปินเก่งๆ

ปกติคนที่ยังไม่มีเป้าหมายชัดเจนหรือมีเป้าความหลายเป้า(เช่นเราเอง) บางทีก็จะเกิดอาการงงตัวเองว่าตกลงฉันอยากทำอะไร การที่ได้ลองเรียนหัวข้อที่แตกต่างเป็นอาทิตย์ก็ช่วยให้เรามีสมาธิกับหัวข้อนั้นๆ พอเรียนจบเอามาเปรียบเทียบกันก็จะรู้ว่าเราถนัด ชอบ หรือควรจะมุ่งไปทางไหน สรุป คลาสนี้ก็เหมือนเป็นไกด์ให้เรานั่นแหละ

• ตั้งแต่เรียนมาก็มีคนมากดไลค์เพจ MerryDay มากขึ้น แต่เขาจะรู้้จักเรามากน้อยแค่ไหนไม่แน่ใจ ที่แน่ๆ ค้นพบว่าการแสดงความคิดเห็นในส่วนของเรา(ซึ่งแต่ก่อนไม่ค่อยกล้า)ก็ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น ได้ฝึกภาษาอังกฤษอีกต่างหาก :)

• คิดว่าฝีมือการออกแบบ+วาดพัฒนาขึ้นนะ ไม่ถึงขนาดมีเทคนิคพิเศษเพิ่ม แต่รู้สึกว่าตัวเองวาด+คิดอะไรเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น มีรายละเอียดมากขึ้น ก็สมกับที่ตั้งใจไว้

ยังมีอีกคำถามที่ถามมามากคือ คิดว่าคอร์สนี้คุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ตอนสั้นๆ ว่าคุ้ม แต่เพราะอะไร ขอเขียนเป็นโพสต์หน้าละกัน :)


Saturday, July 27, 2013

Sunday Sketch กับงานวาดนก

BIRD-july28

สวัสดีวันอาทิตย์ วันนี้ฟ้าหม่นเหมือนเดิม แต่ที่สามารถตื่นเช้าได้ เพราะพอคิดว่าจะมาวาดรูปต่อมันก็รู้สึกสนุกแล้ว ติดอยู่นิดนึงตรงที่ว่างานดูเหมือนจะเดินช้าเหลือเกิน -__-' ทั้งที่ตั้งใจคิด+วาดทุกวัน แต่ก็ยังไม่ทันใจนะ

Sunday sketch วันนี้เป็นสเก็ตช์รูปนกที่วาดมาหลายวัน ธีีมคือ 'secret garden' ที่คิดมานานแล้ว วาดไม่เสร็จซะที(เฮ้อ) คราวนี้พยายามโฟกัสกับการวาดด้วยการตั้ง keywords เป็นแนวทาง นั่นก็คือ ดอกไม้ ผลไม้ นก หนูเมอรี่ และที่เพิ่มเข้าไปคือ การขอบคุณ (grateful)

ไอเดียขอบคุณนี่มาจากสเตตัสของเพื่อนในเฟสบุ้คที่พูดถึงคุณสามีที่กลับมาบ้านจะเขียนบันทึกสามสิ่งที่รู้สึกขอบคุณในวันนั้นๆ เรื่องการรู้สึกขอบคุณ หรือ I feel grateful for นี่ จะเป็นเรื่องที่อ่านเจอเรื่อยๆ ตามบล๊อกของชาวฝรั่งทั้งหลาย เป็นเรื่องที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ก็ไม่ธรรมดาอีกเหมือนกัน เพราะดูเหมือนเขาจะคอยเขียนเตือนตัวเองกันเป็นระยะๆ :) คงเป็นเรื่องปกติของชาวโลกที่มักจะชอบคิดถึงเรื่องแย่ๆ ที่เกิดในแต่ละวันมากกว่าจะรู้สึกถึงสิ่งดีๆ ที่มีอยู่แล้วในชีวิต เลยต้องคอยเตือนตัวเองตลอดๆ ก็แปลกดีเหมือนกัน

ล่าสุดเพิ่งได้ feedback มาจากคนซื้อชุดกระดาษจดหมายจาก MerryDay ของเรา เธอบอกว่าตื่นเต้นที่จะใช้กระดาษเราเขียนจดหมายถึงเพื่อน เป็นคำพูดง่ายๆ ที่จริงๆ เธออาจจะเขียนไปอย่างนั้นก็ได้ แต่อ่านแล้วก็รู้สึกดีใจเล็กๆ เดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยเขียนจดหมายกันแล้ว แต่ก็คิดว่าจะเป็นสิ่งที่หายไปจากโลกนี้ยาก หลายคนเริ่มมึนงงกับความรวดเร็วทันสมัย จดหมายอีเมล์ที่ดูแข็งๆ ยังไงก็ไม่เท่าลายมือสวยๆ หรือบางทีก็ไก่เขี่ยให้เราแกะลายแทงเล่น การโต้ตอบฉับไวผ่านโลกออนไลน์มีประโยชน์หลายอย่าง แต่ถ้ามากไปก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน...

ยังคงพยายามวาด 365 days I draw  และยังมีเรื่องหนูเมอรี่ไปโรงเรียนอีกสองตอนที่ยังอยากเล่า คงต้องค่อยๆ เขียนไป

ขอบคุณที่แวะมาอ่าน ขอให้เป็นวันดีๆ จ้ะ :)

learn-july2013

Wednesday, July 24, 2013

หนูเมอรี่ไปโรงเรียน 6 : Gift

สัปดาห์สุดท้ายของ  Make Art That Sells Class อาทิตย์นี้เรียนเกี่ยวกับ งานของขวัญ (gift) จริงๆ แล้วเป็นหัวข้อที่เราตื่นเต้นน้อยที่สุดถ้าเทียบกับหัวข้ออื่นๆ แต่ปรากฎว่าเป็นหัวข้อที่เกี่ยวกับงานของ MerryDay โดยตรงเลยทีเดียว

ตอนนี้ MerryDay ยังอยู่ในขั้นเตาะแตะมากๆ ของที่ทำขายก็เป็นงานการ์ด งานชุดเครื่องเขียน ที่เราวาด ออกแบบ พิมพ์เอง ยังไม่อยากลงทุนทำของออกมาเยอะ เพราะเคยทำแล้วมีปัญหาเรื่องกระจายของกับเก็บสต็อค คราวนี้เลยขอเริ่มแบบเล็กๆ ก่อน แต่ก็ยังอนุญาตให้ตัวเองฝันว่าสักวันจะมีของขายแบบครบชุด ทั้งแก้วกาแฟ กระเป๋า ของจุ๊กจิ๊กทั้งหลาย ซึ่งก็คือหัวข้อในอาทิตย์นี้นี่แหละ

อาทิตย์ที่ผ่านมาเราได้ทำ pattern ออกแบบลายจาน หนังสือเด็ก และ wall art คราวนี้จะเป็นการออกแบบกระเป๋าใส่ของแบบมีซิป :) เหมือนทุกครั้งเราเริ่มด้วย mini exercise คราวนี้เราต้องหาของสะสมมาวาด หลายคนพอพูดถึงของสะสมก็จะตื่นเต้น ถ่ายรูปของที่มีมาโชว์กันใหญ่ มีทั้งเศษผ้า ไหมพรม ตุ๊กตาตัวน้อย กระดุม สมุด หนังสือภาพ เครื่องมือวาดรูป หินสีสวย บางคนมีกันเป็นกล่องๆ เลยทีเดียว เราเองไม่ได้เป็นคนสะสมของแบบจริงจัง มีบ้างก็พวกโปสการ์ด งานพิมพ์สวยๆ ที่เก็บเยอะหน่อย ถ้าจะซื้อสะสมจริงจังช่วงหลังๆ ก็น่าจะเป็นหนังสือภาพเด็ก ซึ่งคงไม่เวิร์คสำหรับงานนี้ ประกอบกับเพิ่งแต่งงานย้ายออกมาอยู่คอนโดซึ่งไม่ค่อยมีพื้นที่ไว้เก็บสมบัติบ้าเท่าไหร่ เลยหาของมาได้น้อยเท่าที่มีนี่แหละ

my little things

my little things

my little things

เหตุผลที่เราต้องหาของมาเยอะๆ เพราะการบ้านที่ทำจะเป็นการออกแบบกระเป๋าแบบ hyper-lush เพิ่งเคยได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรก สรุปย่อๆ ก็คือเป็นงานสไตล์เยอะ เน้นดอกไม้ใหญ่เล็กซ้อนทับกัน สีสันจัดจ้าน นัยว่าเป็นสไตล์ที่ตอนนี้เขาฮิตกันในวงการแฟชั่น ดูตัวอย่างรูปได้ที่นี่

ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองคงทำงานสไตล์นี้ไม่ได้ เพราะถนัดทำงานเรียบ สีน้อยหน่อย เวลาทำงานที่มีองค์ประกอบเยอะๆ ยุ่งๆ หรือสีมาก เป็นต้องเละทุกที แต่ยังไงลองดูหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร ตอนแรกลองทำ photo collage ดู ปรากฎว่าล่ม ไม่ใช่สิ่งที่อยากทำเลย เลยหันมาสเก็ตช์งานตามสไตล์เราเอง แบบก็เอามาจากของจุ๊กจิ๊กที่เราเก็บๆ มานี่แหละ


gift-sketch

จากนั้นก็ลองนึกภาพ ร่างองค์ประกอบออกมาในรูปแบบกระเป๋า ก็ได้ออกมาประมาณนี้

giftsketch
พอมีภาพร่างแบบชัดๆ แบบนี้เวลาเอาไปวาดในคอมก็ไม่ยากมากแล้ว เพียงแต่ต้องดูบางส่วน ตัดบางส่วนเติมบางส่วนให้ลงตัวขึ้น ค่อยๆ ทำ สลับชิ้นงานไปมาในที่สุดก็ได้อย่างที่ชอบ

pavinee_s_merrydaypouch_1a_week5.jpg

งานนี้รู้สึกชอบสีเป็นพิเศษ สีมิ้นต์ได้มาจากตอนเห็นรถมินิคูเปอร์สีนี้ขับผ่าน เห็นแล้วก็อยากทำกระเป๋าสีนี้ทันที จากนั้นก็คิดว่าสีไหนน่าจะเหมาะต่อ ก็ได้ magenta บานเย็น กับ taupe ออกน้ำตาลมา งานนี้ยังคงเป็นสไตล์เราอยู่ ดูไม่เยอะถ้าเทียบกับงานคนอื่น แต่ก็ถือว่าเยอะพอดูถ้าเทียบกับที่เคยทำมา

สิ่งที่สนุกขึ้นไปอีก คือการลองเอารูปเดียวกันนี่แหละมาแยกส่วนแล้ววางให้ลงตัวกับของแบบอื่น อย่างเคสไอโฟน กระเป๋าเล็ก ตามที่เห็น สรุปว่าต่อไปจะวาดอะไรก็ควรเผื่อแแบบให้สามารถแยกส่วนเอาไปทำนู่นนีนั่นได้ง่ายๆ สินะ

คอร์สเรียน Make Art That Sells จบแล้ว แต่นี่แค่ part A ยังเหลือ Part B ที่จะเปิดอีกทีเดือนตุลา ระหว่างนี้ก็วางแผนไว้ว่าจะต้องทำงานของ MerryDay ให้เยอะที่สุด

มีคนถามหลายคนว่าลงเรียนคอร์สนี้คุ้มไหม ส่วนตัวคิดว่าคุ้ม แต่จะคุ้มยังไงเดี๋ยวมาเขียนสรุปอีกทีดีกว่า :)


Thursday, July 11, 2013

หนูเมอรี่ไปโรงเรียน 5 : wall art

ชั้นเรียน Make Art That Sells จบไปเรียบร้อย แต่ยังมีหลายสิ่งที่ยังดำเนินต่อ ทั้งเพื่อนในชั้นเรียนที่ยังคุยกันต่อใน facebook group ซึ่งเปิดเป็นการถาวร และการแข่งขันหาศิลปินเข้าสังกัด Lilla Rogers Studio เดี๋ยวเราจะค่อยๆ เก็บรายละเอียดบันทึกไปเรื่อยๆ แต่ก่อนอื่นขอเขียนถึงการบ้านอีกสองชิ้นที่ยังไม่ได้พูดถึง :)

อาทิตย์ที่สี่ของคลาสเราเรียนเกี่ยวกับ wall art พูดง่ายๆ คือภาพประดับผนังตกแต่งบ้านนี่แหละ งานนี้สรุปสั้นๆ ก็คือจะต้องเป็นงานที่เด่นและมีรายละเอียดที่ชวนมองตลอดเวลา ดูแล้วไม่เบื่อง่ายๆ เพราะเป็นงานที่จะแขวนประดับอยู่เป็นเวลานาน งานเป็นได้หลากหลายสไตล์ทั้งภาพเหมือนจริง ภาพถ่าย ภาพ collage ภาพสำหรับห้องเด็กเช่น alphabet  ส่วนที่กำลังฮิตขณะนี้คือภาพแนว abstract

การบ้านของอาทิตย์เริ่มด้วย mini exercise หาของที่มีสีตามสีของราศีเกิด ราศีเราคือกรกฎ cancer สีที่เขาว่าคือ ชมพู เหลือง ซึ่งเป็นคู่สีที่เราชอบพอดี รู้สึกว่าเป็นสีของ MerryDay มากๆ :D

MATS Week 4 wall art process

เช่นเคย ทุกอาทิตย์ครูจะพยายามเชียร์ให้นักเรียนทำงานที่แตกต่างจากที่เคยทำ ลองอุปกรณ์หรือสื่อใหม่ๆ ที่เราไม่คุ้น อย่างเราถนัดวาดรูปในคอมฯ ก็พยายามหันมาวาดระบายสีน้ำ สีอะครีลิค คือเน้นให้คิดหาไอเดียก่อนจะอาศัยเทคโนโลยี...

MATS Week 4 wall art process

มาถึงการบ้านหลักนั่นก็คือ วาดภาพ wall art สไตล์ collage เน้น abstract โดยให้มีส่วนประกอบที่เป็นดอกไม้ จะให้เป็นองค์ประกอบหลักหรือให้เป็นแค่ตัวประกอบก็ได้แล้วแต่ จะวาดในโปรแกรมก็ได้ หรือจะละเลงบนผ้าใบก็ตามแต่ใจ เราเลือกทำในสิ่งที่ไม่ถนัด ระบายบนผ้าใบด้วยสีอะครีลิค...

ตอนแรกก็เกร็งเล็กน้อยเพราะไม่มีปุ่ม delete หรือ command+Z ให้กด ผิดแล้วผิดเลยว่างั้น ที่เลือกใช้สีอะครีลิคเพราะเป็นสีที่ระบายทับได้ อย่างรูปข้างล่างนี่ ตอนแรกวาดไปแล้วเต็มเฟรมแต่เกิดไม่ชอบ เลยระบายขาวทับใหม่ ถ้าใช้สีน้ำคงต้องขึ้นกระดาษใหม่กันเลย เพราะไม่รู้จะแก้ยังไง :P

MATS Week 4 wall art process

ทีนี้มาถึงขั้นตอนของการ collage ปะติดชึ่งก็ไม่ถนัดอีก ไม่รู้จะเอาอะไรมาติด ติดตรงไหนถึงจะสวย ติดไปแล้วก็คงแก้ยากด้วย สุดท้ายก็ติดแต่น้อย ติดแค่เศษกระดาษห่อของขวัญ กับกระดาษชงกาแฟ (สีน้ำตาลอ่อนที่ทำเป็นดอกไม้) ชอบกระดาษชงกาแฟนี่ สีสวยเนื้อสัมผัสพอน่ารัก ถึงจะวาดรายละเอียดไม่ได้มากเพราะหมึกมันซึม แต่ก็พอสนุกอยู่เหมือนกัน :)

MATS Week 4 wall art process

MATS Week 4 wall art process

ตอนแรกชอบรายละเอียดของตัวดอกไม้มาก แต่พอลองเอาไปแขวนบนผนังก็รู้เลยว่าไม่เวิร์ค รายละเอียดเล็กไป ภาพโดยรวมดูกระจัดกระจายไม่เด่น เลยตัดใจตัดกระดาษแปะทับแล้วระบายสีเหลืองใหม่ ให้สีเป็นกลุ่มก้อน เพิ่มรายละเอียดสีดำ คราวนี้ดูไกลๆ ค่อยเด่นเด้งขึ้นมาหน่อย จากนั้นก็เติมรายละเอียดอีกเล็กน้อยจนถึงจุดที่คิดว่า พอละ เติมมากเดี๋ยวเละ :P

MATS Week 4 wall art process
พูดกันตามจริง ไม่คิดว่างานชิ้นนี้เป็นชิ้นที่ดีหรือตอบโจทย์ที่เขาตั้งมา มีอีกหลายจุดที่เราต้องพัฒนา แต่อย่างน้อยก็รู้สึกสนุกเวลาทำ เรียนรู้มากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น ที่สำคัญมีความรู้สึกว่ามันยังมีึความเป็น MerryDay อยู่ ซึ่งก็เป็นเป้าหมายของการเรียนคอร์สนี้นะ คืออยากเอาความรู้มาทำ MerryDay ให้ดีขึ้น :)

MATS Week 4 wall art process

พอส่งการบ้านดอกไม้ข้างบนไปเรียบร้อยก็รู้สึกติดใจสีอะครีลิคกับการตัดแปะ เลยลองทำเล่นอีกหนึ่งชิ้น  คราวนี้ไม่เครียดเพราะไม่ใช่การบ้าน ลองสเก็ตช์คร่าวๆ ข้างบนแล้วมาวาดจริงใหม่อีกทีบนกระดาษสีน้ำ ทำเพลินและสนุกเลยเชียว รู้สึกชอบมากกว่าดอกไม้ข้างบนด้วยซ้ำ รู้สึกว่าภาพนี้มีความเป็นเรากว่า :)

MATS Week 4 wall art process

พอทำภาพนี้เสร็จก็อยากลองสีอะครีลิคให้มากขึ้น แอบสงสัยว่าถ้าเราเอาอะครีลิคมาผสมกับงานวาดในโปรแกรมกับงานตัดแปะมันจะออกมาเป็นยังไง คงต้องลองดูสินะ :)

ยังเหลือการบ้านอาทิตย์สุดท้ายที่ต้องพูดถึง จริงๆ การเขียนบล๊อกนี่ใช้เวลาค่อนข้างเยอะ แต่เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ต้องบันทึกไว้ ใช้เวลาหน่อย แต่ภายหน้าก็อาจจะเป็นประโยชน์เวลากลับมาอ่าน :)


Monday, June 24, 2013

หนูเมอรี่ไปโรงเรียน 4 : ภาพประกอบหนังสือเด็ก

pavinee_s_snailrosetree_1a_week3.jpg

ตอนนี้เราเข้ามาถึงสัปดาห์ที่สามของการเรียนออนไลน์วิชา Make Art That Sells แล้ว :D คอร์สนี้เรียนทั้งหมดห้าอาทิตย์ เท่ากับเดินมาครึ่งทางเรียบร้อย หลายคนในคลาสเริ่มบ่นกันว่าเดี๋ยวคลาสจะจบแล้ว จะทำยังไงกัน อย่างที่บอกว่าคลาสนี้สนุกตรงที่เราได้แชร์+คุยกันใน facebook และดูเหมือนทุกคนรวมทั้งเราเองด้วยจะเริ่มติดกลุ่มนี้อย่างแรง แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือคอร์สนี้ออกแบบการสอนที่ทำให้เรากระตือรือร้นและมีสมาธิในการทำงาน นั่นคือ แต่ละอาทิตย์จะมีหัวข้อไม่ซ้ำ โดยจะเริ่มให้การบ้านแบบมินิตั้งแต่วันจันทร์ เป็นการปูทางสำหรับการบ้านหลักที่จะให้ในวันพุธ การบ้านมินิหลักๆ จะเน้นการสเก็ตช์ เช่นที่ผ่านมาก็ให้สเก็ตช์ดอกไม้ โดยยังไม่บอกหรอกว่าจะให้ทำอะไรต่อจากนั้น เป็นการขีดเส้นไม่ให้เรากระโดดข้ามชอตเพราะการสเก็ตช์รวบรวมไอเดียนี่แหละเป็นขั้นตอนสำคัญของงานออกแบบ พอถึงวันพุธเขาถึงจะให้การบ้านหลักมา มีเวลาทำไปจนถึงเย็นวันอาทิตย์ ตารางเวลาแบบนี้จะแน่นมากๆ สำหรับคนที่เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยหรือดูลูกไปด้วย แต่ก็เป็นการฝึกอย่างดี เพราะในความเป็นจริงเวลาทำงานมันก็มีเวลาให้น้อยอย่างนี้แหละ

เราชอบการกำหนดเวลาแบบนี้มาก รู้สึกว่าตัวเองมีสมาธิมากขึ้น จัดเวลาดีขึ้น กำลังคิดว่าถ้าเอาไปปรับใช้กับงานตัวเองแล้วทำให้เป็นนิสัยคงจะดีไม่น้อย :)

มาพูดถึงการบ้านอาทิตย์ที่สามนี้กัน อาทิตย์นี้คือหัวข้อ หนังสือภาพเด็ก เป็นหัวข้อที่เราตื่นเต้นมากเพราะชอบดูหนังสือสวยๆ หลังๆ ยิ่งบ้าหนังสือภาพเด็กเริ่มซื้อเก็บสะสม มีเยอะขนาดตั้งเพจ คนบ้าหนังสือ(สวย) ได้นั่นแหละ :P

ครูเริ่มการสอนด้วยการยกตัวอย่างหนังสือภาพเด่นๆ มีเอกลักษณ์ แล้วอธิบายว่าทำไมแต่ละเล่มถึงดึงดูดคนอ่าน อย่างแรกเลยคือคุณต้องมีตัวละครที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจ ต้องสามารถวาดสื่อท่าทาง อารมณ์ความรู้สึกได้ และต้องสร้างโลกที่น่าตื่นเต้นชวนให้คนอ่านอยากเข้าไป

ทีนี้ก็มาถึงการบ้านมินิในวันจันทร์ ตอนแรกเราเดาเอาว่าน่าจะให้วาดสัตว์ต่างๆ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะให้วาดหอยทาก แต่ก็น่าสนใจนะ ดูมันแปลกดี :)

ladysnailouting

คงเป็นเพราะเราเรียนหัวข้อหนังสือเด็ก หลายคนก็เลยวาดหอยทากออกมาแนวน่ารักกุ๊กกิ๊ก แต่พอวันพุธมาถึงครูบอกการบ้านหลักที่จะต้องทำก็เล่นเอาหลายคนรวมทั้งเราด้วยหงายหลังไปเหมือนกัน การบ้านที่ว่าคือการออกแบบปกหรือหน้าในประกอบนิทานของ Hans Christian Andersen เรื่อง The Snail and the Rose Tree. ซึ่งเรื่องนี้เราอ่านตอนแรกไม่ค่อยเข้าใจนะ เพราะเรื่องออกแนวนามธรรม หอยทากที่คิดว่าจะน่ารักก็กลายเป็นหอยทากแบบดาร์คๆ มองโลกในแง่ร้ายไปซะงั้น ต้องตั้งสติแล้วค่อยอ่านใหม่ถึงจะพอเข้าใจว่าเขาจะสื่อถึงอะไร โชคดีที่เขาให้เราวาดตามที่เราตีความเองได้ เราเลยเน้นไปที่ความสุขสดใสของต้นกุหลาบแทน

rosesketch

การบ้านชิ้นนี้ค่อนข้างยาก เพราะเราไม่ถนัดวาดภาพที่มีตัวละคร ฉากประกอบ รายละเอียดเยอะๆ จริงๆ ถ้าเลือกทำปกก็อาจจะง่ายหน่อย เพราะทำงานมาด้านนี้อยู่แล้ว ถึงจะไม่เคยทำปกหนังสือเด็กก็เถอะ จำได้ว่าเคยคุยกับเพื่อนที่เป็นนักวาดหนังสือเด็กว่าอยากหัดวาดฉาก รายละเอียดเยอะๆ เราเลยเลือกทำหน้าใน ซึ่งยากมาก ยิ่งดูงานคนอื่นๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่า เฮ้ย เราจะทำได้หรือเปล่า แต่ก็กัดฟัน ฮึด ทำจนเสร็จ :D กดดู รูปแรกบนสุด เพื่อดูรายละเอียดจ้ะ

maewsnail

บทเรียนอาทิตย์นี้สอนให้รู้ว่า

• อย่าเปรียบเทียบงานตัวเองกับคนอื่น แต่ละคนมีความสามารถ ปัจจัยต่างๆ ไม่เหมือนกัน ใช้เวลามุ่งมั่นพัฒนาตัวเองจะดีกว่า

• อดทนอึดกับงานที่ทำ ตอนแรกคิดว่าสเก็ตช์ต้นไม้ข้างบนนี่คงไม่รอด เพราะพอลองวาดในคอมลงสีก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ ไม่ใช่อย่างที่เราอยากได้ เกือบจะหาไอเดียใหม่ แต่ลึกๆ ในใจก็รู้สึกว่ามันน่าจะทำได้ ก็เลยลองอดทน วาดเติมนั่นนี่จนเสร็จ มันเป็นเรื่องของการอดทนพยายามต่อเติมจนสำเร็จจริงๆ นะ


WIP-sunzoom

คิดว่าถ้ามีเวลามากกว่านี้ก็อาจจะทำได้ดีกว่านี้ แต่แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว เพราะได้หัดทำในสิ่งที่ไม่ถนัด และทำสำเร็จไม่ท้อไปเสียก่อน :)

อาทิตย์นี้หัวข้อใหม่คือ Wall Art การบ้านมินิคือให้หาของตามสีของราศีเกิด เรากรกฎ สีชมพูเหลือง น่าสนุกดีนะ :)

Monday, June 17, 2013

หนูเมอรี่ไปโรงเรียน 3 Home Decor ออกแบบลายจาน

pavinee_s_secretgarden_1a_week2.jpg
ตั้งใจว่าจะแปะสเก็ตช์ภาพการบ้านสัปดาห์ที่สองของคอร์ส Make Art That Sells ก่อนแล้วค่อยมาเขียนแปะงาน final อีกที แต่ปรากฎว่าเราอินกับงานนี้มาก อาทิตย์ที่แล้วใช้เวลาไปกับการคิดและทำการบ้านอย่างเดียวเลย :)

หัวข้อที่เรียนในสัปดาห์ที่สองนี่คือ home decor ครูเอาตัวอย่างงานสวยๆ ที่ขายในร้านขายของตกแต่งบ้านสวยๆ มาให้ดู ดูแล้วตื่นเต้นมาก ทำให้รู้ว่ารูปวาดชุดนึง ถ้ามีรายละเอียดที่น่าสนใจมากพอ ก็สามารถจะแยกส่วนประกอบไปสร้างงานชิ้นที่แตกต่างกันได้ งานของคนที่ถูกยกเอามาเป็นตัวอย่างประกอบมากที่สุดคืองานของ Suzy Ultman งานของเธอคนนี้ชิ้นนึงสามารถแยกร่างเอาไปทำขวดใส่สบู่ ผ้าม่าน ตุ๊กตา กระดาษโน้ต ผ้าเช็ดเท้า อื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่รู้สึกว่าเป็นของซ้ำๆ ดูแล้วรู้สึกทึ่งเล็กๆ แล้วเริ่มฝันอยากทำงานแบบนี้บ้าง :)

แต่ถ้ามัวแต่ฝัน แต่ไม่ทำมันก็เหมือนเสียเวลาฝัน สิ่งสำคัญที่ครูย้ำทุกบทเรียนคือ คุณต้องวาดเยอะๆ วาดๆๆๆ และพยายามพัฒนาความคิด มุมมอง หาสไตล์งาน ความเป็นตัวของตัวเองให้ได้ แล้วโอกาสมันจะมาหาเราง่ายขึ้น...

อาทิตย์แรกว่าวาดเยอะแล้ว อาทิตย์นี้เหมือนใช้เวลาทำการบ้านนี้อย่างเดียวเลย สิ่งที่แตกต่างคือพยายามวาดด้วยสีที่ไม่ถนัด เรามีพื้นฐานมาทาง graphic design ซึ่งทำงานบนจอคอมพิวเตอร์เป็นหลัก ส่วนใหญ่ก็จะคิดงานแบบคร่าวๆ ด้วยดินสอแล้วไปลงสีในคอมฯ แต่คราวนี้พยายามคิดงานด้วยการวาดมือด้วยดินสอก่อน

flowers pencil sketches

แล้วมาลองสีอะครีลิค ที่วาดตอนแรกรู้สึกอึดอัดขัดใจมาก เพราะเราไม่ถนัดผสมสี รู้สึกว่ามันยุ่งยาก ในรูปนี่ถึงเห็นแค่ไม่กี่สี

homework sketch with acrylic

แต่พอเอาไปแปะใน facebook group ของชั้นเรียน ก็มีคนมาให้กำลังใจหลายคน นักเรียนส่วนใหญ่ในคลาสจะค่อนข้างถนัดงานวาดสีน้ำกัน เราก็เลยฮึดกลับมาลองใหม่ ไม่ตรงไปนั่งหน้าคอมแล้ววาดเลยเหมือนแต่ก่อน คราวนี้ลองสีน้ำบ้าง...

homework sketch

คราวนี้ตั้งใจลองสีแบบจริงจัง ปิดคอมพิวเตอร์ ปิดอินเตอร์เนท facebook ทุกอย่างแล้วอยู่กับงานตรงหน้าจริงๆ


homework sketch

สุดท้ายได้สีและรูปร่างที่ชอบแล้วเริ่มคิดว่าจะเอาสีน้ำที่ชอบนี้ไปแต่งเติมในคอมฯ ให้เป็นลายจานยังไง

Secret garden plate deign development

เนื่องจากฝีมือวาดสีน้ำเรายังไม่เข้าขั้น เลยใช้วิธีที่ถนัดกว่าด้วยการวาดในคอมฯ นี่แหละ แต่ใช้ไอเดีย รูปร่าง สีที่ได้จากการสเก็ตช์สีน้ำมาสร้างในโปรแกรม Illustrator โดยใส่ effect ให้ดูเหมือนวาดมือ ระบายมือเล็กๆ จะได้ไม่ดูแข็งจนเกินไป แบบทางด้านซ้ายมือของรูปข้างบนคือแบบแรก กดที่รูปจะเห็นรายละเอียดว่ากลุ่มดอกไม้ในแบบซ้ายจะดูแน่นๆ อึดอัด แถมหนักไปทางซ้าย เลยขยับตัวดอกไม้แต่ละตัวออกให้มีช่องว่างให้หายใจบ้าง แล้วเปลี่ยนขอบจานใหม่เป็นแบบขวา


secret garden plate design detail


จากนั้นก็เติมเรื่องราวเพิ่มให้ดูน่าสนใจไม่ใช่มีแต่ดอกไม้ ด้วยกระต่าย เราชอบใบไม้สีฟ้าเข้มกับสตรอเบอรี่สีส้มนี่มาก ไม่อยากเปลี่ยน เลยพยายามทำสีกระต่ายให้ดูเข้ากับสองสีนี้ จุดที่ยากคือต้องไม่ให้กระต่ายดูเด้งจนเกินไป อยากให้มันอยู่ในบรรยากาศแบบหลบๆ ใต้ต้นไม้นี่แหละ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ให้มันจมไปกับเหล่าดอกไม้เกินไป เดี๋ยวหาไม่เจอ การปรับสีกระต่ายนี่เลยใช้เวลาพอสมควร


secret garden plate design detail


ขั้นสุดท้ายคือเติม นก แมลงปอ ตกแต่งขอบจานเล็กน้อย (ดูรูปแรก)


secret garden plate design detail


จริงๆ งานออกมาไม่ค่อยเหมือนอย่างที่คิดไว้ในหัวสักเท่าไหร่ ตอนแรกอยากทำแบบโมเดิร์นกว่านี้ และเกือบจะส่งไปตั้งแต่แบบแรกที่ไม่มีเหล่าสัตว์ทั้งหลายแล้ว เพราะวาดแค่ดอกไม้ก็ใช้พลังงานไปเยอะพอสมควร เหนื่อย... แต่พอดูงานของคนอื่นใน facebook group ก็ฮึดขึ้นมา เขาทำกันสวยๆ เราดูงานตัวเองมันยังปรับให้สวยได้อีก เลยอึดอดทนนั่งทำต่อจนได้แบบนี้แหละ :)

สิ่งที่เรียนรู้มาจากชั้นเรียน :

• วาดมือ ลงสีด้วยมือก่อน จะมีโอกาสหารูปร่าง สีที่ถูกใจเร็วกว่าไปเปลี่ยนสีในโปรแกรม

• วาดรายละเอียดเยอะๆ รายละเอียดนี่แหละจะทำให้ภาพมีมิติน่าสนใจขึ้น

• ถึงจะออกแบบแค่ลายจาน ถ้ามีเนื้อหา มีคอนเสปต์จะทำให้งานดูน่าสนใจขึ้น

• อย่าเพิ่งหยุดทำเพราะแค่เหนื่อย ถ้ามีเวลาก็พัก ไปทำอย่างอื่นแล้วค่อยกลับมาดูอีกที อาจจะมีไอเดียดีๆ เพิ่มขึ้นก็ได้

หัวข้อ home decor จบไปแล้ว แต่คิดว่างานที่ทำนี่ยังสามารถต่อยอดไปได้อีก ส่วนอาทิตย์นี้คือหัวข้อ หนังสือเด็ก จะพยายามทำให้ดีๆ อีก :)



Sunday, June 9, 2013

หนูเมอรี่ไปโรงเรียน 2 : การบ้าน vintage kitchen pattern design

pavinee_s_merrykitchen_1a_week1.jpg

การบ้านแรกในวิชา  Make Art That Sells หัวข้อคือ vintage kitchen pattern การบ้านชิ้นนี้เริ่มจากการสเก็ตช์รูปเห็ดก่อนอย่างที่เขียนเล่าไปในโพสต์ก่อนหน้า จากนั้นการบ้านจริงๆ ก็คือการออกแบบแพทเทิร์นนี่แหละ

ว่ากันตามจริงตอนลงเรียนก็ตั้งใจไว้เลยว่าจะหยุดทำงานไปก่อน อยากจะใช้เวลาตรงนี้ให้เต็มที่ แต่ลึกๆ ก็รู้สึกผิดว่าเราไม่ได้ทำงานจะเป็นอะไรไหม พอเริ่มเรียนก็รู้เลยว่าคิดถูก เราใช้เวลาห้าอาทิตย์นี้ให้เต็มที่ น่าจะมีโอกาสพัฒนาฝีมือมากกว่าเรียนครึ่งๆ กลางๆ แถมทำงานครึ่งๆ กลางๆ หลายเท่า ตอนนี้เลยมีความสุขมากที่จะตื่นมาอ่านบทเรียนเตรียมการบ้าน ตั้งใจว่าจะทำดีๆ แล้วเอาไปปรับเป็นชิ้นงานสำหรับขายใน MerryDay อีกที :D

บางทีเห็นคนอื่นเขาขายของไปไกล มีแบรนด์ของตัวเอง แต่เรายังเตาะแตะอยู่ รู้สึกว่าตัวเองช้ากว่าเสมอ มันก็รู้สึกจี๊ดในอกเหมือนกัน แต่ก็เข้าใจว่าความสามารถ เวลา จังหวะของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เปรียบเทียบไปก็เซ็งเปล่าๆ :P

kitchen-zoom
การบ้านชิ้นนี้ทำแล้วก็นึกถึงสมัยแรกเริ่มที่เราใส่ใจกับรายละเอียดมากกว่านี้ รู้สึกเลยว่าหลังๆ ไม่ค่อยลงรายละเอียดรูปเท่าไหร่ ทั้งที่เป็นจุดที่เราเองชอบ และคนดูชอบ เวลาดูงานคนอื่นก็ชอบดูตรงรายละเอียดเล็กๆ อย่างลายดอกไม้บนหม้อ เต่าทองบนเห็ด อะไรทำนองนี้ ต่อไปต้องเตือนตัวเองว่าอย่ารีบ ทำงานให้ละเอียด มีจุดย่อยกุ๊กกิ๊กจะทำให้งานน่าดูยิ่งขึ้น ^-^

พูดถึงเต่าทองบนเห็ด หนูเต่าทองนี่ไม่ได้มีแต่แรกแต่เติมเข้าไปเพราะได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนในเฟสบุ้คที่เห็นรูปเต่าทองบนเห็ดแล้วนึกถึงเราเลยส่งรูปมาให้ หลังๆ เราจะรู้สึกขอบคุณเฟสบุ้คเป็นพิเศษเพราะตั้งแต่เล่นมาก็ได้เจอเพื่อนน่ารักๆ ได้กำลังใจ ได้แรงบันดาลใจมาตลอด การที่ใครสักคนเห็นอะไรแล้วนึกถึงงานเราเอามาบอกนี่เป็นอะไรที่ดีใจมากๆ นะ :D

ส่วนชุดสีหลักในแบบ เหลือง ม่วง ชมพู มาจากสเก็ตช์จากคราวที่แล้ว สีนี่เป็นมาร์คเกอร์สีพิเศษ(แต่ราคาถูกเว่อร์)ที่เพื่อนแนะนำมา ระบายแล้วสีจะสะท้อนแสง บนกระดาษน้ำตาลยิ่งสวย ทำเอาฝันว่าถ้ามีหมึก inkjet สีนี้คงดีพิลึก :D

ตัวแพทเทิร์นนี่ยังไม่สมบูรณ์ ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าลายมันยังซำ้ไม่สม่ำเสมอ คือเรายังไม่รู้วิธีทำนั่นแหละ ^-^' แต่ไม่เป็นไรไปหา tutorial ไว้แล้ว จะลองเรียนแล้วเอามาปรับใช้กับแบบนี้ดู

วันนี้ชั้นเรียนเริ่มบทเรียนที่สอง อาทิตย์นี้จะเป็น home decor ไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาให้ตื่นเต้นบ้าง แล้วจะมาอัพเดทการบ้านที่นี่เรื่อยๆ จนจบคอร์สละกันนะ :)


mushroom sketch

kitchen-coordinate01


kitchen-coordinate02

mats-kitchen-sketch01

mats-kitchen-sketch02


Wednesday, June 5, 2013

หนูเมอรี่ไปโรงเรียน : การบ้านวาดเห็ด

mushroom sketch

วันนี้คือวันที่สามที่หนูเมอรี่(เรานี่แหละ)ไปโรงเรียน เพื่อนถามว่าเราต้องเข้าเรียนตอนไหน ก็ตอบไปว่าแล้วแต่เราเลย เพราะเป็นวิชาแบบ online อาจารย์แปะบทเรียนไว้บนเวบ เราอยากจะเข้าไปอ่านตอนไหนก็ได้ แต่ก็ควรจะจัดเวลาให้ดีเพราะมีการบ้านที่ต้องทำส่งตามเวลาด้วย

วิชาที่เราลงเล่าคร่าวๆ ไปในโพสต์ที่แล้วว่า คือการออกแบบเพื่อธุรกิจ เจาะจงโดยเฉพาะกับงานภาพประกอบหรือ illustration คอร์สแบ่งออกเป็นสองเทอม แต่ละเทอมก็จะมีเจาะเฉพาะธุรกิจไป อย่างเทอมแรกก็จะมี bolt fabric การออกแบบลายผ้า(เป็นพับๆ) / home decor / หนังสือเด็ก / wall art และ ของขวัญกุ๊กกิ๊กต่างๆ

อาทิตย์แรกก็คือ bolt fabric เราไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน พอเห็นตัวอย่างก็ถึงเข้าใจว่ามันคือผ้าที่ขายเป็นพับๆ ตามร้านขายผ้านี่แหละ Lilla อธิบายอย่างกระชับเข้าใจง่าย ว่าตลาดนี้เราควรจะออกแบบยังไง ตัว collection ของผ้าควรจะมีอะไรบ้าง สีสัน โทน trend ก็เป็นสิ่งสำคัญ

วันจันทร์วันแรกจบลงด้วยการให้การบ้านแบบมินิคือให้วาดรูปเห็ดทั้งหลาย กับ casserole dish อย่างหลังนี่ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร แต่อารมณ์ประมาณหม้อ ชามนี่แหละ การบ้านมินินี่เป็นเหมือนให้เราฝึกมือเตรียมไว้สำหรับการบ้านหลักที่จะให้มาทุกวันพุธ ซึ่งพุธนี้ก็คือการออกแบบลายผ้าในธีม vintage kitchen โดยให้เอาเห็ดกับชามที่เราวาดๆ ไว้นี่แหละมาเป็นส่วนประกอบ

จริงๆ ส่วนที่สนุกที่สุดในคอร์สนี้คือการได้ดูงานการบ้านของนักเรียนคนอื่นที่เอามาแชร์และคุยกัน บางคนก็จะมีอารมณ์ขันมาชวนคุยนอกเรื่องนิดหน่อย เหมือนเราอยู่ในห้องเรียนนี่แหละ เพียงแต่ไม่เห็นหน้าจริงๆ สนุกดี เสียแต่เวลาค่อนข้างน้อย ต้องพยายามอย่าหลงไปกับการดูงานคนอื่นหรือคุย เพราะจะทำการบ้านไม่ทันเอา ขนาดเราจัดเวลาไว้แต่แรกก็ยังรู้สึกว่าไม่ค่อยจะทันเลย :P

การบ้านลายผ้านี่ต้องส่งภายในวันอาทิตย์ สงสัยเหมือนกันว่าตัวเองจะทำออกมาได้ขนาดไหน :)

mushroom sketch

mushroom sketch

mushroom sketch

mushroom sketch

Monday, June 3, 2013

หนูเมอรี่ไปโรงเรียน

This is me preparing for school days
ห่างจากบ้านนี้ไปเสียนาน ไม่ได้หายไปไหน ยังคงวาดรูป ดูบล๊อกชาวบ้านทุกวัน แต่อาจจะเล่นเฟสน้อยลง พยายามหาไอเดียวาดรูปมากขึ้น มีหลายอย่างที่รู้สึกว่าติดขัด ทั้งไอเดีย ทั้งอารมณ์ตัวเอง บางทีก็หงุดหงิดเหมือนว่าตัวเองไปไม่ถึงไหนเสียที ทั้งที่ทำงานอยู่ทุกวัน บางทีอาจจะต้องตัด ขยับเวลาบางส่วนในชีวิตให้ดีขึ้น ทำงานให้มากขึ้น เรื่อยเปื่อยให้น้อยลง...

แต่เดือนนี้อาจจะอนุโลมไว้ก่อน เพราะเรากำลังจะกลับไปเรียนหนังสือ :D ไม่ได้ไปเรียนโรงเรียนจริงๆ แต่เป็น e-course ชื่อว่า Make Art That Sells  เนื้อหาก็ตรงตามชื่อคอร์ส ทำอย่างไรให้งานศิลปะของเราขายได้ ครูที่สอนคือ Lilla Rogers ศิลปินวาดภาพประกอบที่ผันตัวเองมาเป็นเอเจนซี่คอยหางานป้อนงานให้ศิลปินคนอื่น  ศิลปินในสังกัดของเธอมีหลายคนที่เราชอบและตามงานอยู่ พอเธอบอกว่าจะเปิดสอนวิชานี้เราเลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ อ่านเนื้อหาที่เธอจะสอนแล้วก็รู้สึกว่านี่แหละ ใช่เลย เราน่าจะได้ความรู้จากคอร์สนี้พอสมควร และเนื่องจากเธอค่อนข้างดังในกลุ่มอาชีพ illustrator/designer คนเลยลงเรียนเยอะ ตอนนี้ก็ปาเข้าไปสามร้อยกว่าคนแล้ว มีตั้งแต่คนที่แทบไม่ได้จับดินสอวาดรูปไปจนถึงนักวาดรูปที่ประสบความสำเร็จแล้ว แม้แต่ศิลปินในสังกัดของเธอเองก็ลงเรียนด้วย

Lilla เพิ่งออกหนังสือ I Just Like to Make Things เล่าถึงประวัติคร่าวๆ ก่อนเธอมาทำงานด้านนี้ และรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานในแต่ละตลาด ทั้งการออกแบบลายผ้าสำหรับทำเสื้อผ้าเด็ก งานเย็บปักถักร้อยต่างๆ  งานออกแบบเครื่องเขียน ของพรีเมี่ยม งานออกแบบหนังสือเด็ก และอื่นๆ อีกมากมาย หลักๆ คือการออกแบบภาพประกอบและกราฟฟิค แต่แต่ละรูปแบบงานแต่ละตลาดจะมีจุดที่แตกต่าง หนังสือบอกเราคร่าวๆ ว่าควรจะออกแบบอย่างไรถึงจะเหมาะสมกับตลาดนั้นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราสงสัยมานานแล้ว คือในโลกนี้มีงานสวยๆ มากมาย แต่ไม่ใช่ว่าทุกงานจะขายได้หมด มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อ่านหนังสือเธอ ประกอบกับบทเรียน(ที่เริ่มวันนี้วันแรก) ก็เริ่มจับจุดได้บ้าง รู้สึกสนุก ตื่นเต้นดีนะ :D

I just like to make thing - lilla rogers

วันนี้คอร์สเปิดเรียนวันแรก แต่ก่อนหน้านั้นทีมงานส่งลิ๊งค์ facebook group มาให้เหล่านักเรียนมาแนะนำตัวทำความรู้จักกันก่อน นั่งอ่านนั่งดูแทบไม่ไหว ทุกคนมีพื้นฐานด้านวาดรูประดับหนึ่ง บางคนวาดเป็นงานอดิเรกแต่อยากต่อยอดเพิ่ม บางคนทำงานออกแบบลายผ้า หนังสือเด็กอยู่แล้ว แต่อยากเสริมความรู้ การได้อยู่ท่ามกลางคนที่สนใจในสิ่งเดียวกันนี่มันสนุกนะ เป็นแรงบันดาลใจผลักดันให้เราขยันมากขึ้น :D

บทเรียนวันนี้เกี่ยวกับการออกแบบลายผ้าสำหรับ bolt fabric ง่ายๆ คือผ้าเป็นพับๆ ที่ขายตามร้านผ้านี่แหละ เราแชร์เนื้อหาที่เขาสอนไม่ได้ แต่คิดว่าจะแชร์การบ้านที่ต้องทำ จะพยายามบันทึกขั้นตอนไว้ สิ่งที่เราทำตอนนี้อาจจะเป็นประโยชน์กับเราในวันข้างหน้าที่กลับมาอ่านก็ได้ใครจะรู้ :)

รูปข้างล่างนี่คือ mood board ที่เอารูปเดิมๆ ออก คิดว่าอีกไม่นานคงเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจจากคอร์สนี้และเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ;)

deskjune2

Friday, May 3, 2013

เบื้องหลังเส้นและสี : การ์ดคุณหมีกอดๆ :D

MerryDay bear hug card

งานการ์ดคุณหมีกอดๆ หนึ่งในงานวาดชุด  Love is... collection ที่ออกมาก่อนช่วงวันวาเลนไทน์ รูปนี้จริงๆ เป็นรูปที่วาดเล่นๆ ระหว่างงาน ชอบเวลาที่อยากจะวาดอะไรสักอย่าง ทั้งที่ไม่มีไอเดียในหัว แล้วอยู่ๆ ภาพมันก็แวบวาดขึ้นมาเองในสมอง สำคัญอยู่ที่เราต้องจับมันมาวาดบนกระดาษให้ได้เท่านั้น หลายครั้งที่ชอบแวบมาตอนจะหลับ ซึ่งมักจะขี้เกียจลุกขึ้นมาจับดินสอ หลายไอเดียก็เลยหายไปกับค่ำคืน :P เขาถึงว่าให้มีสมุดจดไว้ข้างเตียง แต่ใช่ว่ามีแล้วเราจะลุกขึ้นมาจดงั้นแหละ (•_•)!

หน้าตาคุณหมีนี่เราไม่ได้จินตนาการขึ้นมาเองหรอก มันมีตัวต้นแบบ :)

my bear at home

ซื้อคุณหมีมาในวันที่แสนเซ็ง อยากจะได้อะไรสักอย่างมาปลอบใจ เดินไปเดินมาวนอยู่หลายรอบ ในที่สุดก็คว้าตัวนี้เดินไปจ่ายเงินจนได้ ในใจก็คิดว่าคนจะว่าไหมว่าหน้าตางี้ยังเล่นตุ๊กตาอีกหรือ แถมจินตนาการคำตอบเสร็จสรรพว่า จะซื้อให้หลาน! จริงๆ ไม่ใช่หรอก :P

แต่เป็นการซื้อที่คุ้มมาก มองหน้ามันทีไรก็มีความสุข กอดไว้ในอ้อมแขนได้พอดีด้วย :D เสียดายว่าไม่ได้ซื้อตัวใหญ่มา (มีทั้งหมดสามขนาด) กลับไปตามหาซื้ออีกก็ไม่มีแล้ว ทำไมไม่ทำอีกนะ น่ารักขนาดนี้...

มาดูเทียบกันแล้ว เรายังวาดได้ไม่น่ารักเท่าตัวจริงเลยนะ :(

การ์ดนี้มีขายอยู่ที่เฟสบุ้คหรือจะติดต่อมาทาง onmerryday@gmail.com ก็ได้ มีสมุดด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าเหลือกี่เล่ม สนใจเมล์มาได้จ้ะ

ปล. ชอบ caption >> The warmest place is you. มากเป็นพิเศษ มันแวบเข้ามาในหัว(อีกแล้ว) แล้วรู้สึกว่ามันช่างเข้ากับรูปจัง :D

Friday, April 19, 2013

งานวาดเป็นการ์ด When Spring Comes

Colorful Flower Garden Blank Card

งานวาดล่าสุดที่ทำเป็นการ์ด จริงๆ งานนี้วาดมาจากต้นแบบที่วาดไว้นานแล้วในโปรเจคท์  365 days I draw project หัวข้อคือ garden รูปต้นแบบนั้นใช้ปากกามาร์กเกอร์บนกระดาษน้ำตาล ตอนวาดมือสนุกมาก ตอนนั้นกำลังบ้าวาดบนกระดาษน้ำตาล เวลาวาดก็จะได้กลิ่นหอมๆ ของกระดาษด้วย :)

96-garden-pavinee

รูปนี้วาดด้วยการไม่คิดอะไรมาก แค่อยากวาดดอกไม้เยอะๆ  เริ่มด้วยการลงมาร์เกอร์สีเป็นรูปร่างดอกไม้ก่อน วาดเป็นจุดๆ กะระยะให้ห่างกันพอสมควร มาร์กเกอร์ชุดนี้มีไม่กี่สีที่วาดบนกระดาษน้ำตาลแล้วจะดูแจ่ม  เราชอบสีชมพูเป็นพิเศษ รู้สึกว่ามันช่างเข้ากับน้ำตาล ดูอุ่นๆ หวานๆ

จากนั้นก็เติมหมึกดำตรงรายละเอียด หนูเมอรี่ก็เติมทีหลัง จะได้เน้นความรู้สึกสดชื่นไปด้วย แต่งานการ์ดเปลี่ยนสีดำให้เป็นเขียว ให้ความรู้สึกเบาๆ ไม่หนักจนเกินไป :)

งานนี้มีขายที่เพจในเฟสบุ้ค ถ้าสนใจสอบถามโดยตรงได้ทางเมล์ onmerryday@gmail.com ค่ะ

ขอบคุณที่แวะมา ขอให้วันนี้เป็นวันดีๆ สดชื่นๆ เหมือนในรูป :D


Colorful Flower Garden Blank Card
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...