ตอนนี้ MerryDay ยังอยู่ในขั้นเตาะแตะมากๆ ของที่ทำขายก็เป็นงานการ์ด งานชุดเครื่องเขียน ที่เราวาด ออกแบบ พิมพ์เอง ยังไม่อยากลงทุนทำของออกมาเยอะ เพราะเคยทำแล้วมีปัญหาเรื่องกระจายของกับเก็บสต็อค คราวนี้เลยขอเริ่มแบบเล็กๆ ก่อน แต่ก็ยังอนุญาตให้ตัวเองฝันว่าสักวันจะมีของขายแบบครบชุด ทั้งแก้วกาแฟ กระเป๋า ของจุ๊กจิ๊กทั้งหลาย ซึ่งก็คือหัวข้อในอาทิตย์นี้นี่แหละ
อาทิตย์ที่ผ่านมาเราได้ทำ pattern ออกแบบลายจาน หนังสือเด็ก และ wall art คราวนี้จะเป็นการออกแบบกระเป๋าใส่ของแบบมีซิป :) เหมือนทุกครั้งเราเริ่มด้วย mini exercise คราวนี้เราต้องหาของสะสมมาวาด หลายคนพอพูดถึงของสะสมก็จะตื่นเต้น ถ่ายรูปของที่มีมาโชว์กันใหญ่ มีทั้งเศษผ้า ไหมพรม ตุ๊กตาตัวน้อย กระดุม สมุด หนังสือภาพ เครื่องมือวาดรูป หินสีสวย บางคนมีกันเป็นกล่องๆ เลยทีเดียว เราเองไม่ได้เป็นคนสะสมของแบบจริงจัง มีบ้างก็พวกโปสการ์ด งานพิมพ์สวยๆ ที่เก็บเยอะหน่อย ถ้าจะซื้อสะสมจริงจังช่วงหลังๆ ก็น่าจะเป็นหนังสือภาพเด็ก ซึ่งคงไม่เวิร์คสำหรับงานนี้ ประกอบกับเพิ่งแต่งงานย้ายออกมาอยู่คอนโดซึ่งไม่ค่อยมีพื้นที่ไว้เก็บสมบัติบ้าเท่าไหร่ เลยหาของมาได้น้อยเท่าที่มีนี่แหละ



เหตุผลที่เราต้องหาของมาเยอะๆ เพราะการบ้านที่ทำจะเป็นการออกแบบกระเป๋าแบบ hyper-lush เพิ่งเคยได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรก สรุปย่อๆ ก็คือเป็นงานสไตล์เยอะ เน้นดอกไม้ใหญ่เล็กซ้อนทับกัน สีสันจัดจ้าน นัยว่าเป็นสไตล์ที่ตอนนี้เขาฮิตกันในวงการแฟชั่น ดูตัวอย่างรูปได้ที่นี่
ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองคงทำงานสไตล์นี้ไม่ได้ เพราะถนัดทำงานเรียบ สีน้อยหน่อย เวลาทำงานที่มีองค์ประกอบเยอะๆ ยุ่งๆ หรือสีมาก เป็นต้องเละทุกที แต่ยังไงลองดูหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร ตอนแรกลองทำ photo collage ดู ปรากฎว่าล่ม ไม่ใช่สิ่งที่อยากทำเลย เลยหันมาสเก็ตช์งานตามสไตล์เราเอง แบบก็เอามาจากของจุ๊กจิ๊กที่เราเก็บๆ มานี่แหละ

จากนั้นก็ลองนึกภาพ ร่างองค์ประกอบออกมาในรูปแบบกระเป๋า ก็ได้ออกมาประมาณนี้

พอมีภาพร่างแบบชัดๆ แบบนี้เวลาเอาไปวาดในคอมก็ไม่ยากมากแล้ว เพียงแต่ต้องดูบางส่วน ตัดบางส่วนเติมบางส่วนให้ลงตัวขึ้น ค่อยๆ ทำ สลับชิ้นงานไปมาในที่สุดก็ได้อย่างที่ชอบ

งานนี้รู้สึกชอบสีเป็นพิเศษ สีมิ้นต์ได้มาจากตอนเห็นรถมินิคูเปอร์สีนี้ขับผ่าน เห็นแล้วก็อยากทำกระเป๋าสีนี้ทันที จากนั้นก็คิดว่าสีไหนน่าจะเหมาะต่อ ก็ได้ magenta บานเย็น กับ taupe ออกน้ำตาลมา งานนี้ยังคงเป็นสไตล์เราอยู่ ดูไม่เยอะถ้าเทียบกับงานคนอื่น แต่ก็ถือว่าเยอะพอดูถ้าเทียบกับที่เคยทำมา
สิ่งที่สนุกขึ้นไปอีก คือการลองเอารูปเดียวกันนี่แหละมาแยกส่วนแล้ววางให้ลงตัวกับของแบบอื่น อย่างเคสไอโฟน กระเป๋าเล็ก ตามที่เห็น สรุปว่าต่อไปจะวาดอะไรก็ควรเผื่อแแบบให้สามารถแยกส่วนเอาไปทำนู่นนีนั่นได้ง่ายๆ สินะ
คอร์สเรียน Make Art That Sells จบแล้ว แต่นี่แค่ part A ยังเหลือ Part B ที่จะเปิดอีกทีเดือนตุลา ระหว่างนี้ก็วางแผนไว้ว่าจะต้องทำงานของ MerryDay ให้เยอะที่สุด
มีคนถามหลายคนว่าลงเรียนคอร์สนี้คุ้มไหม ส่วนตัวคิดว่าคุ้ม แต่จะคุ้มยังไงเดี๋ยวมาเขียนสรุปอีกทีดีกว่า :)
No comments:
Post a Comment