Tuesday, September 25, 2012

ตื่นมากับความรู้สึกอยากเขียนอะไรสักอย่าง...

museumoftextile

ตื่นมากับความรู้สึกอยากเขียนอะไรสักอย่าง...

ไม่ได้เขียนบล็อกนานมาก ทั้งที่อยู่หน้าจอทุกวันบางวันก็ทั้งวัน ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตส่วนหนึ่งเราจะหายไปกับ facebook…นั่งดูนั่งอ่านเรื่องราวของคนอื่น บ่นเรื่องตัวเองเรื่อยเปื่อยมันก็คลายเครียดใช้ได้ มันเป็นเวบที่เหมาะกับคนทำงานที่บ้านอย่างยิ่ง เพราะสังคมของเราก็จะอยู่ตรงนี้แหละ ข้อเสียคือถ้าเผลอ เราก็จะมีชีวิตที่ใส่ใจกับชีวิตตัวเองน้อยลง เพราะมัวแต่ไปสนใจเรื่องชาวบ้าน :P ที่สำคัญคือทำให้สมาธิสั้นอย่างแรง จากที่เคยอยู่กับงานตรงหน้าได้นานๆ เหมือนหลงไปในโลกอีกโลกหนึ่ง รู้สึกตัวอีกทีก็ อ้าว เย็นแล้ว ทำงานไปได้เท่านี้นะ แต่ปัจจุบันคือ อ้าว เย็นแล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรเลย -_-' 

แต่เทียบกันแล้ว ผลที่ได้จากเฟสบุ้คในด้านดีมีมากกว่า หนึ่งคือได้เพื่อน ถึงไม่เคยเจอกัน แต่ก็ได้รู้ว่ามีคนอีกฟากเมือง(หรือบางทีก็แถวบ้านนี่แหละ)มีความคิด ชอบอะไรคล้ายๆ เรานะ ให้ได้รู้ว่าเราไม่ได้บ้าวาดรูป บ้าซื้อหนังสืออยู่คนเดียว อีกหนึ่งคือการเปิดเพจทำให้เราวาดรูปเยอะขึ้น จากที่งงๆ ไม่รู้จะวาดสไตล์ไหนดี พอวาดทุกวันก็เริ่มจับทางได้ว่าเรามีความสุขกับการวาดแบบไหน แบบไหนที่เป็นเรา แบบไหนที่เป็นคนอื่น...

พูดถึงวาดรูป ตอนนี้กำลังพยายามดึงตัวเองกลับไปช่วงเวลาที่ไม่มีงาน ไม่มีเงิน(อ้าว) แต่มีเวลาอยู่กับตัวเอง วาดรูปโดยไม่ต้องห่วงว่าคนจ้างจะชอบไหม ได้ลงเรียน creative e-course ดีๆ ได้ดูงานสวยๆ ได้เห็นว่าคนอื่นเขาก็กำลังพยายามเหมือนเรานะ

ตอนนี้กำลังร่างโครงการที่คิดจะทำ จริงๆ ก็ร่างทุกปี แต่ก็ยังทำไม่ได้ครบอย่างที่ตั้งใจ เริ่มรู้สึกว่าเราให้เวลาไปกับงานของคนอื่นเยอะมาก (ก็มันได้ตังค์จริงๆ นี่นา) เลยว่าจะทำตัวเป็นศิลปินกับเขามั่ง ใช้เวลาเต็มที่กับงานตัวเอง จะทำได้หรือไม่ ก็ไม่ต้องกังวล สิ่งที่สำคัญคือได้ทำอะไรที่เราอยากทำ มีความสุขกับมันจริงๆ ถ้าสามารถทำให้มันเป็นสิ่งที่เลี้ยงชีพเราได้ก็ยิ่งดีเลย
 ……… 

รูปข้างบนนี่คือพวงกุญแจกระสวยทอผ้า (เขาเรียกอย่างนี้ใช่ไหม) วางบนฝากล่องจักสานลายสวย ซื้อจากร้านขายของที่ระลึกที่พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ (http://www.queensirikitmuseumoftextiles.org/) เมื่อหลายวันก่อน พอดีว่ามีโอกาสได้ตามพี่สาวไปชมพิพิธภัณฑ์รอบพิเศษ มีการพูดถึงประวัติความเป็นมาของตัวอาคาร หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งสวยมาก การออกแบบภายในก็ดูสวยลงตัว ตั้งแต่ตัวอักษรชื่อห้อง ไปถึงเพดาน ฉลองพระองค์ที่นำมาจัดแสดงก็สวยมากๆ เราดูในทีวีเวลาพระองค์ท่านทรงจะรู้สึกเฉยๆ เพราะไม่เห็นรายละเอียด แต่พอได้ดูใกล้ๆ และได้ฟังประวัติความเป็นมาก็รู้สึกทึ่ง ประทับใจ

ก็หวังว่าผ้าไทยที่สวยเป็นเอกลักษณ์จะได้รับการพัฒนาทางด้านการออกแบบมากกว่านี้ ล่าสุดได้ดูรายการทีวี ทอฟ้าผ้าไทย แข่งออกแบบเสื้อโดยใช้ผ้าไทย คนที่มาแข่งส่วนใหญ่ออกแบบชุดได้สวยมีสไตล์ใช้ได้เลยนะ 

…ยังคงเขียนบล็อกแบบเรื่อยเปื่อยเหมือนเดิม -_-' แต่ก็ดีใจที่ได้กลับมาเขียนอะไรยาวๆ จะพยายามกลับมาวาดรูปเยอะๆ เหมือนเดิมด้วย :)

แรงบันดาลใจวันนี้

-ตื่นมาเล่นโยคะพร้อมกับดูสารคดีเกี่ยวกับศิลปะอิสลาม
- เปิดเวบมาเจอวีดีโอการทำงานของ rob ryan (http://www.misterrob.co.uk/) ดูงานแล้วก็นึกถึงศิลปะลายฉลุของอิสลามที่ดูไปเมื่อเช้า
-คู่สี น้ำเงิน+ส้ม / น้ำเงินอ่อนกับชมพูแดง
-ลง e-course เพิ่มอีกตัว หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในอนาคต
-ชื่นชมเวบชาวบ้าน >> Experimental Personal Projects http://colourboxonline.com/Experimental-Personal-Projects

Friday, May 25, 2012

สมุดแปะความทรงจำ



ชุดสมุดเปล่าที่พี่สาวให้เมื่อนานมาแล้ว พิเศษตรงที่ว่าเธอซื้อสมุดเปล่ามาเป็นชุด (กระดาษน้ำตาล แต่ตอนนั้นยังไม่โปรดมากเท่าตอนนี้) แล้วแปะซีร็อกซ์ภาพรองเท้าเราเอง รูปนี้ถ่ายตอนไปเที่ยวฝรั่งเศสกับพี่สาวนี่แหละ เดินจนรองเท้าขาด ที่ขำคือตอนนั้นเราสวมถุงเท้าขาว ก็เลยกลายเป็น Michael Jackson ซะงั้น -__-'

ตั้งแต่ตอนนั้น ไปไหนก็จะต้องมีช็อตถ่ายรองเท้าแบบนี้ :)

สมุดนี่ข้างในยังว่างเปล่า แต่เหมือนแค่รูปเดียวบนปกก็เล่าอะไรได้มากมาย...


Wednesday, April 25, 2012

วันเดินเล่น


apr25-pavinee01


วันนี้ตั้งใจออกจากบ้านไปดูนิทรรศการภาพถ่าย The Upside Down World of Philippe Ramette ที่หอศิลป์กรุงเทพฯ หอศิลป์ที่นี่เข้าไปทีไรก็รู้สึกมันร้างๆ ชอบกล แต่ก็ชอบความเงียบของมันนะ (ถึงบางทีจะแอบน่ากลัวไปนิด) โชคดีที่ตอนนี้มีหลายนิทรรศการให้เราเดินดู

นอกจากนิทรรศการที่ว่า(ซึ่งเราชอบ แต่ไม่รู้จะเขียนบล๊อกถึงยังไง ให้กดลิ๊งค์เข้าไปดูรูปเองจะดีกว่า:) เดินขึ้นมาเรื่อยๆ ก็มาเจอนิทรรศการ You Are Not Alone : เพราะอยู่บนโลกเดียวกัน เกี่ยวกับผู้ติดเชื้อเอดส์ หน้างานมีพื้นที่ให้เราวาดโปสการ์ดให้กำลังใจผู้ติดเชื้อ ตอนไปไม่มีใครเลย เราเลยครองพื้นที่ นั่งวาดของเราจนได้การ์ดตามรูปข้างบนนี่แหละ วาดเสร็จก็มานั่งดูที่เขาจัดพื้นที่ไว้ให้ คล้ายๆ  nursery หน่อยๆ น่ารักตรงโต๊ะไม้ยาวสลักลายรูปวาดทั้งหลายกับเก้าอี้พลาสติกแบบบ้านๆ  ดูกันเองดี เห็นแล้วก็อยากนั่งวาดรูปเล่นไปเรื่อยๆ :)

ปล. ไม่ได้เอากล้องไป ได้แต่ถ่ายจากมือถือรุ่นโคตรธรรมดา รูปเลยออกมาเบลอๆ ขออภัย :P

apr25-pavinee02

apr25-pavinee03


apr25-pavinee06

apr25-pavinee04

Saturday, April 14, 2012

วาดเล่นกับคุณหลาน

วันสงกรานต์ ตั้งใจว่าจะไม่ทำอะไรนอกจากวาดรูป อ่านหนังสือ แต่ก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ออกไปข้างนอก วันนี้เลยงัดกระดาษออกมานั่งวาดเล่นกับคุณหลาน พี่สะใภ้อยากให้เราสอนหลานวาดรูปนานแล้ว แต่เราสอนไม่เป็น ได้แต่นั่งวาดไปเรื่อยๆ หลานก็วาดตาม :)

รูปเสื้อผ้าข้างบนนี่วาดเอง พอดีช่วงนี้บ้าแต่งตัวอยู่ แต่รูปแมวเหมียวข้างล่างนี่ลอกแบบมาจากหนังสือสอนวาดอีกที ถึงดูเหมือนจะวาดเยอะ แต่ก็มีหลายอย่างที่เรายังวาดไม่เป็น โดยเฉพาะรูปสัตว์ที่ไม่ถนัดตั้งแต่เด็ก แต่จะว่าไปเราไม่ได้วาดรูปเก่งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนเด็กวิชาศิลปะไม่เคยได้เกรดดีๆ ถึงจะวาดทุกวันแต่ก็วาดแต่รูปเด็กผู้หญิงแต่งตัว ตอนนั้นอยากเป็น fashion designer เลยเชียว แต่ตอนนี้คิดถูกแล้วที่ไม่ได้เรียนด้านนั้น เพราะไม่ค่อยตามแฟชั่นเท่าไหร่หรอก :P 

ถึงจะเรียนดีไซน์มา แต่พื้นฐานการวาดรูปเราก็ยังไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ เล่นแสงเงาไม่เป็น การใช้สีก็ยังมีปัญหา แต่ไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่นะ เพราะสำหรับเรา ศิลปะคือสิ่งที่มองแล้วรู้สึกประทับใจ สบายใจ ในแง่ใดแง่หนึ่งมากกว่า...

 ว่าแต่ เริ่มติดใจสีไม้นี่แล้วสิ วาดสนุกดี ^-^

เก็บกระดาษ


เห็นเขาว่าวันที่ 13 เมษา(หรือเปล่า)เป็นวันเก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน เริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยความสะอาดสดใส เราไม่ได้เก็บเป็นเรื่องเป็นราว ได้แต่จัดกองหนังสือ กระดาษ สมบัติบ้าทั้งหลายให้ดูเข้าที่เข้าทาง

จัดไปจัดมาก็รู้สึกว่าเราเก็บของที่แทบจะไม่ได้หยิบมาใช้ไว้เยอะมาก หนึ่งในนั้นคือบรรดากระดาษทั้งหลาย ทั้งโบรชัวร์ขายของที่ตอนเก็บอาจจะเห็นว่าสวย แต่ตอนนี้ดูอีกทีก็...ทิ้งดีกว่า แผ่นพับสถานที่ท่องเที่ยวที่เคยไป บางแผ่นไม่สวยหรอก แต่เหมือนเป็นเครื่องเตือนว่าฉันเคยไปนะ (จริงๆ จำไมไ่ด้แล้ว) การ์ดวันเกิดจากเพื่อนที่ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว สติ๊กเกอร์สวยๆ ที่ไม่กล้าเอามาใช้ ซองจดหมาย และสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีทุกครั้งที่เห็นคือเหล่าโปสการ์ดสวยๆ ทั้งหลาย ทั้งที่ซื้อเก็บเอง ทั้งที่มาจากเพื่อนที่รู้จัก เพื่อนที่ไม่รู้จักผ่านเวบ postcrossing.com ใส่กล่องไว้ เปิดดูทีไรก็รู้สึกเหมือนเปิดดูของมีค่าทั้งที่จริงๆ แล้วมันไม่มีราคาอะไรเลย แต่โปสการ์ด กระดาษ พวกนี้เหมือนหนังสือ เป็นเพื่อนกัน เวลาเหงาๆ เบื่อๆ เอามาเปิดดูก็ทำให้รู้สึกดีได้ บางครั้งก็ยังให้ไอเดียเวลาคิดงานไม่ออก...

ปัญหาคือตอนนี้เริ่มจะไม่มีกล่องไว้เก็บแล้วสิ ('-')>

Tuesday, April 10, 2012

กลับมาเรื่อยเปื่อย



keepcalm-pavinee

ไม่ได้อัพบล๊อกนานมาก ชีวิตยังอยู่หน้้าจอคอมฯ แต่ไปโผล่ที่ facebook เสียส่วนใหญ่ ไม่่น่าเชื่อว่าคนอย่างเราจะเล่นอะไรแบบนี้กับเขาด้วย...

ข้อดีของการเล่นเฟสคือวาดรูปได้มากขึ้น สม่ำเสมอขึ้น เพราะไม่ได้วาดเองดูเองเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้เรามีคนดูคน like และบางทีก็คุยกัน ข้อเสียคือความที่มันเป็นการพิมพ์อะไรสั้นๆ ตอนนี้เราเริ่มเขียนอะไรยาวๆ ไม่เป็นแล้ว...สมาธิก็พลอยสั้นตามการอัพเดทตลอดเวลาในหน้า wall จะว่าไปคนเล่นเฟสนี่ต้องจิตใจเข้มแข็งระดับหนึ่งเหมือนกันนะ ไม่งั้นงานการพังหมด มันติดจริงๆ นะนี่ -_-'

แต่ถึงยังไงเราก็คิดว่าการเขียนบล๊อกเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะทิ้ง ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะมีคนอ่านหรือเปล่านี่แหละ สำหรับเราการเขียนบันทึกก็เหมือนการวาดรูป เริ่มแรกคือความว่างเปล่า แต่พอเริ่มลงเส้น วาดไปเรื่อยๆ ถึงบางครั้งจะวาดเส้นเดิมๆ รูปเดิมๆ ไม่ได้เรื่องได้ราว (เหมือนกับที่เราพิมพ์เล่าอะไรมั่วอยู่ตอนนี้ :P) แต่พอถึงจุดๆ หนึ่งไอเดียมันจะมาเอง... เป็นการจัดระเบียบความคิดและฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง...

แต่ก็สังเกตตัวเองเหมือนกันว่าไม่เคยบันทึกอะไรในสมุดเลย บางทีเราอาจจะพยายามไม่พอ หรือเราก็เป็นแค่สัตว์สังคมที่คิด(ไปเอง)ว่าการเขียนบล๊อกคือการสื่อสารหาเพื่อนแบบหนึ่ง...

แต่ที่แน่ๆ มันคือการระบาย และจัดความคิด(ที่ตอนนี้ยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่)จริงๆ

ปล. รูปข้างบนนี่เราควรจะเปลี่ยนเป็น keep calm and write on สินะ :)
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...